วิธีทำซูชิ อาหารญี่ปุ่นแบบง่ายๆ

Category: เกร็ดความรู้ทั่วไป 14,200 0

         วิธีทำซูชินั้นไม่ยากและก็เป็นอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นอาหารเชิดหน้าชูตาของประเทศญี่ปุ่น คล้ายกับของไทยเราก็คือ ต้มยำกุ้ง ผัดไท อะไรทำนองนั้นครับ ดูได้จากร้านอาหารญี่ปุ่นแทบทั้งโลกจะขาดซูชิไปไม่ได้เลย                 

               ซึ่งวิธีทำซูชินั้นหากจะว่าไปแล้วก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเท่าไหร่เลยคุณสามารถเอาไปลองทำรับประทานเองเพื่อรับประทานกันในบ้านโดยไม่ต้องไปตามร้านอาหารญี่ปุ่นหรือแผงที่ขายอาหาร(เดี๋ยวนี้ตามตลาดนัดบางที่ก็มี)เลย

                 

วิธีการทำซูชิ

เราต้องเริ่มจากส่วนประกอบสำคัญในการทำ “ซูชิ”  นั่นก็คือ ข้าวซูชิ ครับจึงจำเป็นต้องเริ่มทำก่อนซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญมากว่าจะอร่อยหรือไม่อร่อยตรงนี้สำคัญที่สุดก็ว่าได้ครับ
 

วิธีทำข้าวซูชิ
วัตถุดิบ

          ข้าวสารญี่ปุ่น  200 กรัม (ประมาณ 1 ถ้วย)

          น้ำสะอาด 300 มิลลิลิตร

          น้ำส้มสายชูข้าวญี่ปุ่น  100  มิลลิลิตร

          น้ำตาลครึ่งช้อนโต๊ะ

          เกลือป่น ครึ่งช้อนชา

วิธีทำ

          1. เอาข้าวสารญี่ปุ่นมาซาว จากนั้นให้แช่น้ำเปล่าทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที พอถึงเวลาก็ค่อยเทน้ำออก แล้วให้พักข้าวทิ้งเอาไว้แบบนั้นประมาณ 15 นาที

          2. นำข้าวสารที่ซาวไว้ใส่หม้อ จากนั้นให้เติมน้ำเปล่าลงไป เอาฝาหม้อมาปิด ต้มโดยให้ใช้ไฟปานกลาง

          3. พอเริ่มเดือดก็ให้ลดไฟลงใช้ไฟอ่อนๆเท่านั้น  แล้วก็ต้มข้าวต่อไปอีก 15 นาที

          4. พอได้เวลาก็ปิดไฟแล้วพักข้าวเอาไว้แบบนั้น(อย่าลืมปิดฝาให้แน่น) ใช้เวลา 15-20 นาที

          5. เอาน้ำส้มสายชูข้าวญี่ปุ่น น้ำตาล และเกลือ มาต้มให้เข้ากัน โดยใช้ไฟอ่อนๆเพื่อไม่ให้ไหม้ พอน้ำตาลละลายดีแล้วก็ปิดไฟ

          6. เตรียมอ่างไม้เอาไว้จากนั้นก็นำข้าวมาตักใส่แล้วค่อยๆราดด้วยน้ำส้มสายชูที่ผสมแล้วลงไปโดยค่อยๆเติมพร้อมกับใช้ทัพพีหรือไม้พายคนข้าวชิมรสว่าได้ที่หรือไม่ระวังไม่ให้เปรี้ยวมากจนเกินไป โดยขั้นตอนนี้ควรจะต้องทำในช่วงที่ข้าวยังมีความร้อน และผสมกับน้ำส้มที่ผสมไว้ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ข้าวเกิดแฉะมากจนเกินไปจะทำให้ไม่อร่อย
 
          ตอนนี้เราก็ได้ข้าวสำหรับซูชิที่ต้องการมาแล้ว ก็ถึงขั้นตอนที่จะทำหน้าต่างๆซึ่งก็มีอยู่เยอะมาก แต่หากจะเอาที่เป็นที่นิยมและรสชาติอร่อยก็นี่เลย “คานิ ซูชิ” คือข้าวปั้นหน้าปูอัด อีกอย่างหนึ่งก็คือ “มากิ ซูชิ” ข้าวม้วนห่อสาหร่าย

 

คานิ ซูชิ (ข้าวปั้นหน้าปูอัด)

 

เครื่องปรุงและวัตถุดิบ

          ข้าวซูชิ 1 ถ้วยตวง

          ปูอัด  7-8  ชิ้น

          ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น 3 ช้อนโต๊ะ

          วาซาบิ 1-2 ช้อนโต๊ะ

          ขิงดอง 2 ช้อนโต๊ะ

          สาหร่ายแผ่น 1 แผ่นใหญ่

วิธีทำ

       1. ค่อยๆปั้นข้าวซูชิให้เป็นก้อนทรงยาวรี (อย่าลืมล้างมือก่อนทำครับ)

       2. นำปูอัดมาหั่นออกให้เป็นชิ้นพอดีๆ ใช้ช้อนเอาวาซาบิมาทาลงไปเล็กน้อย(อย่าให้เยอะมากเกินไป)

       3. เอาปูอัดที่หั่นไว้มาวางประกบกับข้าวที่ปั้นเอาไว้แล้ว

      4. ใช้มีดตัดสาหร่ายแผ่นออกตามยาว จากนั้นก็นำเอามาพันข้าวและปูอัดให้รอบ เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานแล้ว

         

มากิ ซูชิ (ข้าวม้วนห่อสาหร่าย)

          สำหระับซูชิ แบบนี้จะมีข้าวพร้อมกับไส้ต่างๆ อยู่ในสาหร่ายครับ และอุปกรณ์สำคัญที่จำเป็นต้องมีเรียกว่าขาดไม่ได้เลยก็คือแผ่นไม้ไผ่สำหรับห่อ ซูชิ ครับ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ไปจัดการเรื่องเครื่องปรุงกันครับ ซึ่งมีดังนี้

 

เครื่องปรุงและวัตถุดิบ

          ข้าวซูชิ 1 ถ้วยตวง

          แตงกวา หรือวัตถุดิบอื่นๆตามความต้องการ เช่น ไข่ จะเอามาทำเป็นไส้ซูชิ

          สาหร่ายทะเลแผ่นใหญ่ 1 แผ่น

         
วิธีทำ

             1.  เอาสาหร่ายทะเลที่เตรียวไว้มาวางบนแผ่นไม้ไผ่

             2. ใช้ช้อนตักข้าวซูชิแล้วค่อยๆเกลี่ยให้แผ่ลงบนแผ่นสาหร่าย  โดยให้กะพื้นที่ตรงด้านบนและล่างเอาไว้ประมาณ 1 นิ้ว

            3. ใส่ส่วนผสมที่ต้องการจะทำเป็นไส้ เช่น ไข่(หน้าไข่หวาน) หรือ แตงกวา ลงบนข้าว

            4. ถึงขั้นตอนสำคัญให้ค่อยๆ ซูชิ โดยต้องใช้นิ้วชี้จับไม้ไผ่ให้แน่นเพื่อให้ข้าวคงตัวไม่หลุดออก โดยค่อยๆหมุนไปเรื่อยๆตามแผ่นไม้ จากนั้นก็ค่อยเอาซูชิออกมา

            5. ใช้มีดคมๆเช็ดด้วยผ้าเปียกแล้วตัดออกเป็นคำๆ (ที่ต้องเช็ดกับผ้าเปียกก่อนก็เพื่อทำให้สามารถจัดซูชิได้ง่ายขึ้น)

             และนี่ก็คือวิธีทำซูชิแบบง่ายอาหารเพื่อสุขภาพของคนญี่ปุ่นและเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งของคนญี่ปุ่นครับ เอาไปลองทำกันได้เลยส่วนอยากจะใช้ใส้อะไรนั้นก็แล้วแต่ความชอบได้เลยครับ ว่วนคราวหน้าจะเอามะไรมาฝากอย่างลืมติดตามกันในเกร็ดความรู้ของประเทศญี่ปุ่นครับ

Facebook Comments Box

Related Articles

Add Comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.