สวรรค์บ่อน้ำร้อนที่เบปปุ

               เบปปุคงเป็นสวรรค์สำหรับคนที่ชอบแช่บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ที่นี่สามารถตอบโจมย์ความต้องการได้อย่างวิเศษสุดเลยทีเดียวครับ เพราะเบปปุนั้นมีชื่อเสียงเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย

               สำหรับจุดหมายของคนที่มาเที่ยวเมืองเบปบุแห่งนี้นั่นคือการที่จะต้องไปเยือน ชิโกคุ (Jigoku) ทั้ง 9 แห่ง ให้ครบ หรือที่เรียกกันว่า “ทัวร์นรก 9 ขุม”  นั่นเอง

              เบปปุเป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวังออกเฉียงใต้ของเมืองฟุกโอกะ ในเขตจังหวัดโออิตะ ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฟุกุโอกะ   และแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เมืองเล็กๆเท่านั้นแต่ชื่อเสียงของเบปปุนั้นไม่ได้เล็กตามไปด้วย เพราะสำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้วที่เมืองนี้มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอยู่มากที่สุด จนทำให้ได้รับการยกย่องว่าเบปปุเป็นเมืองหลวงของออนเซ็นเลยทีเดียว  สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าความร้อนที่อยู่ใต้พื้นดินนั้นมาจากภูเขาไฟอะโสะครับ

            โดยบ่อน้ำร้อนที่มีชื่อเสียงของเบปปุนั้นมีหลายที่ครับแต่ที่มีชื่อเสียงมากก็คือ บ่อน้ำร้อนสีแดง(Bloody Hell Pond) อายุกว่า1,300ปี สิ่งที่พิเศษก็คือสีของน้ำที่ดูคล้ายกับเลือด  ในภาษาญี่ปุ่นชื่อว่า “Chinoike-jigoku” ซึ่งก็มีที่มาอิงจากคำบรรยายในพุทธศาสนา โดยความร้อนของอุณหภูมิน้ำในบ่อนั้นสูงถึง 18 องศาเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบ่อที่มีชื่อเสียงครับ เช่น บ่อสีฟ้า,บ่อมังกรเขียว,บ่อภูเขาไฟ,บ่ออาหาร,บ่อจระเข้,บ่อสีขาว

              ส่วนใหญ่บ่อน้ำร้อนหรือบ่อออนเซ็นที่เมืองเบปปุนี้จะ มีให้หลากหลายแบบตามความต้องการครับ มีทั้งการใช้ถังไม้ หรือหากอยาอาบแบบโล่งๆสบายๆก็มีบ่อน้ำร้อน แบบสระซึ่งก็มีทั้งในร่มหรือกลางแจ้งอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนครับ   หรือใครยังไม่สะดวกไปถึงเบปปุประเทศญี่ปุ่นก็มีbeppu เชียงใหม่ ไว้ให้ได้แช่เหมือนกันนะ

             สำหรับใครที่สงสัยว่าการแช่บ่อน้ำร้อนนั้นมีอะไรดี? คำตอบก็คือสำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วมีความเชื่อว่า บ่อน้ำร้อนจากธรรมชาตินั้น สามารถช่วยบรรเทาหรือบำบัดโรคบางอย่างได้  อีกทั้งการแข่บ่อน้ำร้อนหรืออนเซ็นเป็นประจำยังช่วยทำให้สุขภาพผิวพรรณเปลั่งปลั่ง เลือดลมไหลเวียนดี และบ่อน้ำร้อนที่เบปปุนี้ก็เป็นแร่ธรรมบริสุทธิ์  จึงทำให้เป็นที่นิยมนั่นเอง แต่จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แต่เป็ความเชื่อครับหลายๆคนที่มาลองแล้วก็จะพบว่าเป็นจริงตามนั้น