ใครที่เคยดูหนัง ซี่รี่ย์หรือสารคดีที่เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นคงจะคุ้นกับภาพพิธีชงชากันเป็นอย่างดีนะครับ เพราะนี่ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับที่นี่มาเป็นระยะเวลานานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นไปแล้ว สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วดูเหมือนว่าพิธีชงชานั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่ารสชาติของชาเสียอีก ดังนั้น หากจะไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีจะไม่ทำความรู้จักกับเรื่องนี้คงไม่ได้แล้วครับ รับรองได้ว่าน่าสนใจมากๆเลยทีเดียว
แต่การดื่มชาจริงๆแล้วนั้นญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนครับ ในภาษาญี่ปุ่นเรียกพิธีนี้ว่า ซาโด หรือ ชะโด (茶道 sadō หรือ chadō ) แต่ก็อาจจะเรียกว่า ชาโนยุ ( chanoyu 茶の湯) ก็ได้ ซึ่งหมายถึงพิธีชงชาญี่ปุ่น โดยตามที่ได้บันทึกเอาไว้นั้นคือเริ่มมาตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ส่วนต้นฉบับของพิธีชงชาที่ะพบเห็นมาจนกระทั่งถึงในทุกวันนี้นั้น เริ่มขึ้นในช่วงปลายของศตวรรษที่ 16(ยุคโมโมยาโตะ) โดยการริเริ่มของปรมาจารย์ทางด้าชามีชื่อว่าอาจารย์ เซ็น โนะ ริคิว (Sen no Rikyu) ครับ ซึ่งภายหลังที่ท่าน เซ็น โนะ ริคิวได้ถึงแก่กรรมเมื่อปี ค.ศ. 1591 แต่ว่าหลักคำสอนก็ยังคงอยู่และมีการสืบทอดต่อกันมาโดยลูกศิษย์ของท่านมาเป็นรุ่นๆ และยังได้มีการก่อตั้งโรงเรียนอีกหลายแห่งขึ้นเพื่อสืบสานความรู้ต่างๆ ที่โด่งดังก็อย่างเช่น โรงเรียนอุระเซ็งเกะ ซึ่งก็ตั้งมาอย่างยาวนานและผลิตบุคลากรออกมาเป็นจำนวนมาก
โดยซาโดหรือชะโดนี้มีสิ่งที่มีความลุ่มลึกในตัวเองเพราะไม่ใช่แค่การนั่งดื่มน้ำขาเพื่อแก้กระหายหรือพบปะพูดคุยสังสรรค์เท่านั้น แต่เป็นรูปแบบที่ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้อิทธิพลของศาสนาพุทธศาสนา ในนิกายเซ็น หากจะอธิบายความหมายของพิธีชงชานั้นก็จะหมายถึงในเรื่องของ การทำจิตใจหรือวิญญาณให้มีความบริสุทธิ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัว
ซึ่งความจริงในเรื่องของพิธีชงชายังแฝงไปถึงเรื่องของ ความสง่างาม ความสงบ ความเรียบง่าย แต่ก็มีความปราณีตละเมียดละไมแฝงอยู่ในขั้นตอนของการชงชาด้วย
พิธีชงชานั้นก็ยังมีบทบาทเป็นอย่างมากและมีความสำคัญไปถึงเรื่องของศิลปะในแขนงอื่นๆ เราจึงจะเห็นว่าพิธีชงชานั้นจะหมายรวมไปถึงเรื่องของห้อง(สถานที่) ในการทำพิธี สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่ใช้ประกอบในการชงชา ไม่ว่าจะใบชา,ถ้วยชา,กาน้ำชา ฯลฯ หรือเครื่องประดับต่างๆภายในห้อง เช่น การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น,ภาพแขวน,เครื่องปั้นดินเผา,ภาพวาด ส่วนภายนอกก็จะมีการจัดสวนที่สวยงาม ร่มรื่นแบบญี่ปุ่น ทั้งหมดที่ว่ามานี้ต่างก็ได้รับอิทธิพลที่มาจากพิธีชงชาด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากนี้ขั้นตอนการปฏิบัติตัวในขณะการทำพิธียังส่งผลมาถึงเรื่องของมารยาทในสังคมอีกด้วยเราจึงเห็นว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีกริยามารยาทที่ค่อนข้างเรียบร้อยและนุ่มนวลนั่นเองครับ
พิธีชงชาแบบญี่ปุ่นนี้จึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่บ่งบอกถึงประเพณีที่งดงามและน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งซึ่งตกทอดกันมาอยู่จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ครับ